หลังจากเดินทางท่องเที่ยวนอกตัวเมืองมาเป็นเวลา 3 วัน
วันสุดท้ายของโปรแกรมเที่ยวขอเข้าสัมผัสเมืองหลวงของญี่ปุ่นกันสักหน่อย
พี่ไกด์ พาเราเดินทางด้วยเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง “ชินคันเซ็น”
มุ่งสู่โตเกียว โอ้วว ตื่นเต้นมากๆ
นี่ช้านกำลังจะได้นั่งชินคันเซ็น หรือนี่!! ฝันอยู่หรือปล่าววว (เวอร์ไป!!)
ต้นทางจากสถานี SHIN-YOKOHAMA ไปลงที่สถานี TOKYO
แล้วต่อรถไฟฟ้าไปย่าน “ชินจูกุ” ระหว่างรอพี่ไกด์จัดการเรื่องตั๋วเดินทาง
ฉันเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ ชาวญี่ปุ่นแน่นเต็มสถานี
เรากลุ่มนักท่องเที่ยวที่พยายามทำตัวให้กลมกลืน
พอถึงเวลา เราเดินผ่านประตู
สแกนบัตรผ่านเรียบร้อย ยืนรอสักพักรถไฟก็มา ด้วยความตื่นเต้นและเร่งรีบ
ได้ภาพที่ดีที่สุดมาเท่านี้ รถไฟสวยสวยมั๊กมาก ๆ พอเดินขึ้นรถไฟฟ้าไป
เหลือที่ว่างให้ฉันนั่งอยู่หนึ่งที่พอดี ระหว่างที่นั่งบนรถไฟ
ไม่ได้หยิบกล้องขึ้นมาเลย รู้สึกเกรงใจกับบรรยาการภายในรถไฟที่เงียบสงบ
เราเดินทางใช้เวลาพอสมควร
กว่าจะเข้ามาถึงย่านชินจูกุ ก็เกือบๆทุ่ม
พี่ไกด์ให้เราเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องพักแล้วกลับลงมารวมตัวกันที่เคาร์เตอร์
ฉันได้พักบนชั้น 14 ของโรงแรม Prince Hotel เป็นโรงแรมที่จัดเรียงของในห้องได้อย่างลงตัวมาก
แต่ว่าไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆเลย เพราะต้องรีบลงไปให้ทันเวลานัด
และกะว่าตื่นตอนเช้าจะเก็บภาพ ก็ดันลืมเสียสนิท
พอรวมตัวกันครบที่เคาร์เตอร์โรงแรม พี่ไกด์ให้แผนที่ พาเดินทัวก่อนเพื่อจะได้ไม่หลง
และแนะนำจุดสำคัญๆ สำหรับซื้อของฝาก จากนั้นก็พาไปกินมื้อเย็น บุฟเฟ่ชาบู
เพื่อเติมแรงก่อนทีจะปล่อยให้เราเดินชอปปิ้งกันได้ทั้งคืน ย้ำ ทั้งคืน!!!
ชอปปิ้ง ! ย่านชินจูกุ ถือว่าเป็นแหล่งชอปปิ้งของนักท่องเที่ยว
เป็นที่ที่เราสามารถหาซื้อของฝากกันได้ทั้งคืนเลยทีเดียว
ร้านค้าที่อยู่ในย่านนี้จะมีเวลาปิดต่างกัน
ร้านที่ปิดเร็วก็จะต้องรีบเข้าไปซื้อของให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
เพราะเราพักกันที่นี่แค่คืนเดียว และพรุ่งนี้เช้าก็ต้องเดินทางกันต่อ
และก็จะมีบ้างร้านที่เปิดตลอดทั้งคืน จากที่พี่ไกด์ได้บอกเราแล้วว่า “ชอปปิ้งกันได้ตลอดทั้งคืน แต่อย่าลืมเวลานัดพรุ่งนี้เช้าด้วยนะคะ 8:00 น”
ฉันเองไม่ได้กะมาเดินชอปปิ้งอะไรมากมาย
เดินดูของฝากเพื่อติดไม้ติดมือกลับไปนิดหน่อย ก็ปล่อยให้บัดดี้เดินเลือกของไปเรื่อยๆ
ส่วนฉันออกมาเดินเล่นถ่ายรูปตามถนน เพราะนี่คือสิ่งที่ตั้งใจจริงๆ
ฉันเดินไปเรื่อยๆ พยายามจำเส้นทางเพื่อที่จะได้ไม่หลง
ระหว่างทางก็จะมีร้านค้ามากมาย
ภาษาที่ร้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาญี่ปุ่นจึงไม่รู้ว่าแต่ละร้านที่ฉันเดินผ่านว่าเขาทำอะไร
หรือเขาขายอะไร
เดินไปเรื่อยๆ ก็จะตีหนึ่งแล้ว
ฉันเลยเดินกลับไปร้านที่เพื่อนยังเดินชอปอยู่
กว่าจะออกจากร้านและเดินกลับถึงโรงแรมก็เกือบจะตีสองแล้ว
ถึงอย่างนั่นฉันก็ยังมีใจที่จะนอนแช่น้ำอุ่นๆ ในอ่างอาบน้ำ รู้สึกสบาย
และผ่อนคลายสุด พร้อมหลับไหลและพร้อมเที่ยวใหม่ในวันพรุ่งนี้
Morning Tokyo, Morning Shinjuku
วันสุดท้ายของทริป พี่ๆ ไกด์ให้เวลาพักเต็มที่
เวลานัด 8:00 น.
เพื่อเดินทางเที่ยวต่อตอนเช้า ซึ่งเป็นเวลานัดที่ช้าที่สุดตลอดทริปนี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันกับบัดดี้ก็ยังนัดกันตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม
เพื่อไม่ให้พลาดโอกาศสัมผัสบรรยากาศตอนเช้าๆ ของโตเกียว ที่ย่านชินจูกุ (ในแต่ละคืนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นไม่มีคืนไหนที่ไม่นอนดึกเลย
แต่ก็ไม่รู้สึกเพลียเลย แปลก!!
ร่ายกายพร้อมที่จะเที่ยวได้ตลอดเวลา) หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
เปิดม่านเพื่อเก็บถาพมุมสูงชั้น 14 จากโรงแรมที่พัก Happy
Morning จริงๆ
มื้อเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม Prince Hotel เริ่มรู้สึกคิดถึงอาหารไทยแล้ว
แต่ยังไงมื้อนี้ก็ต้องกินเพิ่มพลังไว้ก่อนเพื่อมีแรงเดินเที่ยวต่อ
ฉันกับบัดดี้มาถึงห้องอาหารกันเป็นกลุ่มแรกๆ เพื่อนคนอื่นๆ
คงยังหลับอยู่ หลังจากที่เดินชอปปิ้งกันแทบทั้งคืน
ในห้องอาหารมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นเบาบาง
มื้อเช้าที่เป็นแบบบุฟเฟ่ ฉันเดินวนดูอาหารไปหนึ่งรอบไม่รุ้จะเลือกกินอะไรดี
จนมาเจอไข่ดาว เลยเลือกกิน นี่แหละ! ไข่ดาว ^^ เพราะเป็นอาหารที่คล้ายกับบ้านเราที่สุดแล้ว
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ เราก็ออกมาเดินเล่นแถวๆ
โรงแรม เพราะเวลาเรายังเหลือก่อนถึงเวลานัดหมายอีกพอสมควร
บรรยากาศตอนเช้านี่สดชื่นจริงๆ เลย อากาศเย็นสบาย
อยากให้เมืองไทยอากาศเป็นแบบนี้บ้าง เราเดินเล่นไปเล่นไปเรื่อยๆ พร้อมๆ
กับชาวญี่ปุ่นที่เริ่มเดินทางไปทำงาน
เมืองที่ใช้การเดินและใช้รถไฟฟ้าซะส่วนใหญ่
รถยนต์ส่วนบุคลแทบไม่เห็นบนท้องถนนในตอนเช้าเลย เก็บภาพ เก็บภาพ เก็บภาพ
วันสุดท้ายของทริปญี่ปุ่น
ยังมีโปรแกรมเที่ยวแน่นไปจนถึงเย็น ฉันและเพื่อนๆ พร้อมที่จะเดินทางกันต่อ
เพื่อที่จะรับและสัมผัสเมืองญี่ปุ่นกันอย่างเต็มที่ เวลา 8:00 น. ตามเวลานัดหมาย
รถจอดรอเราอยู่ก่อนแล้ว เราทะยอยขึ้นรถประจำที่นั่ง เมื่อขึ้นมาจนครบ
รถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ นำเราไปยังอีกสถานที่ … ฉันคิดในใจแค่เพียงว่า
“แล้วจะกลับมาอีกนะ Shinjuku”
แล้วจะกลับมาเล่าเรื่องเที่ยวในครั้งถัดไปให้เพื่อนๆ
ได้อ่านพร้อมกับภาพของสถานที่นั้นเรื่อยๆ นะคะ
บันทึกเรื่องราวการเดินทาง ... Lewhite
0 ความคิดเห็น: