ลมหนาวพัดมา หอบหิ้วเอาความฝันและความหวังติดตัวมาด้วย หน้าหนาวที่ใครๆ หลายคนรอคอย โดยเฉพาะคนที่อยู่กรุงเทพฯ ที่หาสัมผัสอากาศหนาวได้ยาก การออกเที่ยวต่างจังหวัดจึงเป็นกิจกรรมที่หลายๆ คนเลือก 
        การได้เห็นทะเลหมอก หรือการสัมผัสอากาศเย็นๆ ด้วยอุณหภูมิเหลือเพียงแค่หนึ่งหลัก  เป็นสิ่งที่หลายๆ คนตั้งตารอคอย ฉะนั้น หนาวนี้ หลิวจึงไม่อยากพลาดเหมือนกันค่ะ  แพลนเที่ยวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  ตัดสินใจเลือกที่เที่ยวได้ด้วยความรวดเร็ว  แต่พอต้องมานั่งนับถอยหลังรอวันที่จะไป มันกลับรู้สึกน้านนาน  อยากจะไปซะวันนี้ พรุ่งนี้ 
        แต่นั้นก็ผ่านมาแล้วค่ะ เพราะวันนี้คือวันที่เราต้องออกเดินทางกันแล้ว..

น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี   - น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา

          อยากเล่นน้ำ...นี่คือโจทย์สำหรับทริปนี้   เล่นน้ำงั้นหรอ ทะเลม่ะ? หรือแก่งดี? เอ๊ะ น้ำตกดีกว่า สรุปสถานที่ที่เลือกนั่นก็คือ น้ำตกเอราวัณ  กาญจนบุรีค่ะ  ไม่ไกลจาก กทม มาก และการเดินทางก็แสนจะง่ายดาย  
         แล้วทริปนี้เราก็เริ่มต้นขึ้น หาข้อมูลสิค่ะ รออะไร  การเดินทางไปเล่นน้ำสำหรับสามสาว  ที่ตัดสินใจกันว่า กางเต้นนอน โอ้ววว ตื่นเต้นไหมละคะ 
         ก่อนอื่นเล่าถึงน้ำตกแห่งนี้กันบ้างสักนิด  น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ค่ะ อยู่ในแนวลำน้ำแควใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร (อันนี้หาข้อมูลมาจากอากู๊) อยู่เส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนศรีนครินทร์ค่ะ การเดินทางของเราเริ่มจาก
       - -> นั่งรถตู้จากหมอชิต  ไป  กาญจนบุรี   ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
       - -> นั่งรถประจำทางจาก บขส กาญจนบุรี ไป อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
เพียงเท่านี้เราก็ได้เล่นน้ำกันแล้วค่ะ  :) 

ภาพระหว่างทางก่อนถึงน้ำตกเอราวัณ

        พอถึงทางเข้าอุทยาน รถประจำทางจะจอดเพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บค่าเข้าอุทยาน  ซึ่งไม่แพงค่ะ  ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท  เด็กคนละ 20  ถ้าเป็นชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 เด็ก 50 บาท ค่ะ
        เมื่อถึงอุทยาน สิ่งแรกที่เราทำก็คือ หาของกิน ฮ่าๆ ก็มันใกล้เที่ยงแล้ว และมันก็หิวมาก  

ส้มตำ ต้มแซบ ไก่ย่าง อาหารที่กาญจนบุรี อร่อยมากๆ

         กินอิ่มแล้วก็พร้อมหาที่นอนค่ะ อิอิ  ไม่ใช่แระ  ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อกางเต้น  และเช่าเครื่องนอนค่ะ  เราต้องไปจับจองพื้นที่กางเต้นกันก่อน เดี๋ยวจะไม่มีที่นอน :)  ที่กางเต้นต้องเดินออกจากอุทยานออกมาอีกนิดหน่อย 

       มีที่นอนเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปเล่นน้ำกันแล้วววว  นำตกเอราวัณมีทั้งหมด  7 ชั้น  เดี๋ยวหลิวจะพาเพื่อนๆ ไปสัมผัสความงาม และน้ำเย็นๆ ของแต่ละชั้นนะค่ะ

Erawan water Falls

ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง เหมาะสำหรับนั่งปิกนิก มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหาร ริมน้ำตก

ชั้นที่ 2 วังมัจฉา มีปลาเวียนว่ายในน้ำใสอยู่เป็นจำนวนมาก แอ่งน้ำสีฟ้า มีม่านน้ำตก ไหลผ่านหินย้อย เหมือนกับน้ำไหลผ่านปากถ้ำ ลงมายังแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เหมาะกับการลงเล่นน้ำ 

น้ำตกชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ก่อนขึ้นไปยังน้ำตกนี้ จะมีจุดตรวจอาหาร ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่ม และขวดน้ำ ขึ้นไปจากชั้นนี้เด็ดขาด ต้องฝากเจ้าหน้าที่เอาไว้ นะค่ะ

ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ทางอุทยานทำทางเดินบันไดไว้อย่างเรียบร้อย แต่เส้นทางค่อนข้างสูงชันอยู่เหมือนกัน ตามภาพนี้เลยค่ะ

ชั้นนี้ดูดีๆ จะเห็นหิน 2 ก้อนที่มีลักษณะเหมือนหน้าอกผู้หญิง แต่มีลักษณะใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป เลยได้ชื่อเป็นอกนางผีเสื้อ (สมุทร) ซะเลย ชั้นนี้มีน้ำไหลตามหินลงมายังแอ่งด้านล่าง สามารถเล่นน้ำได้ จากนี้เส้นทางจะค่อนข้างลำบากขึ้น และเป็นทางชันขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด น้ำตก

ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาแบบเตี้ยๆ เป็นแอ่งตื้นๆ เหมาะกับการแช่น้ำเล่น  ชั้นนี้ชาวต่างชาติเยอะเชียว

ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา อยู่ห่างจากชั้น 5 แค่ 300 เมตร มีน้ำตกอยู่หลายมุม ตามแมกไม้ต่างๆ

ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ การเดินทางไปถึง ต้องเดินผ่านหิน ปีนบันไดไปอีก เป็นทางที่เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แต่ก็คุ้มกับการมาดู เพราะเป็นชั้นที่สูงที่สุดและสวยที่สุด มีสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง ผ่านแมกไม้ และแนวหิน มาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง

      ใครที่อยากเล่นน้ำ น้ำตกเอราวัณ เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่แนะนำนะค่ะ   น้ำใส เย็น และอาหารอร่อย  มาช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ได้สบายๆ  งั้นปิดท้ายด้วยภาพของกิน  แล้วเจอกันใหม่  หลิวจะเที่ยวที่ไหน  จะมาแชร์ให้เพื่อนๆ แน่นอนค่ะ

บันทึกเรื่องราวการเดินทาง..Lewhite

1 วัน กิน เดิน เที่ยว ถ่ายรูปที่นครปฐม  

วันนี้จะพาเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพกันนะค่ะ จุดหมายปลายทาง คือ พระราชวังสนามจันทร์ และพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม

แม่น้ำแควน้อย กาญจนบุรี

             เส้นทางบนสายรถไฟภาคตะวันตกของประเทศไทย เขาว่ากันว่าเป็นเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุด
เราต่างก็เห็นภาพหลายต่อหลายคน และหลายต่อหลายเพจแชร์ความสวยงามของทางรถไฟสายนี้  สักครั้งหนึ่งขอตามรอยไปให้เห็นกับตา  
             การวางแผนเที่ยวครั้งนี้จึงเริ่มต้นขึ้น เป็นการวางแผนที่สั้นที่สุดในชีวิตสำหรับการเดินทางเที่ยวต่างจังหวัด  เพราะว่า ฉันกำหนดวันเดินทางอีกไม่ถึง 1 เดือนข้างหน้า