แม่น้ำแควน้อย กาญจนบุรี              เส้นทางบนสายรถไฟภาคตะวันตกของประเทศไทย เขาว่ากันว่าเป็นเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุด เราต่างก็...

ริมแม่น้ำแควน้อย กาญจนบุรี



แม่น้ำแควน้อย กาญจนบุรี



             เส้นทางบนสายรถไฟภาคตะวันตกของประเทศไทย เขาว่ากันว่าเป็นเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุด
เราต่างก็เห็นภาพหลายต่อหลายคน และหลายต่อหลายเพจแชร์ความสวยงามของทางรถไฟสายนี้  สักครั้งหนึ่งขอตามรอยไปให้เห็นกับตา  
             การวางแผนเที่ยวครั้งนี้จึงเริ่มต้นขึ้น เป็นการวางแผนที่สั้นที่สุดในชีวิตสำหรับการเดินทางเที่ยวต่างจังหวัด  เพราะว่า ฉันกำหนดวันเดินทางอีกไม่ถึง 1 เดือนข้างหน้า
 เพราะฉะนั้น มีเวลาไม่ถึง 30 วัน ที่ต้องเก็บเงิน หาที่พัก  จองที่พัก วางแผนค่าอาหาร  วางแผนการเดินทาง  อ่านรีวิวเพื่อเตรียมพร้อม ด้วยทุกอย่างมันค่อนข้างง่าย และไม่ซับซ้อน  ก็เลยชิวล์ ๆ รอวันเดินทาง



สถานีเริ่มต้น - -> สถานีรถไฟธนบุรี
          มาถึงสถานีกันแต่เช้า เพื่อขึ้นรถไฟ  ขบวน ธนบุรี-น้ำตก  (รถไฟฟรี) แอบตกใจนิดหน่อย คือ คนเยอะมากกก  เริ่มหวั่นๆ  ว่าจะมีที่นั่งไหมเนี้ย! แต่พอเอาเข้าจริง ที่นั่งก็ยังเหลืออีกเยอะ  รถไฟนี่ถือว่ารองรับคนได้เยอะมาเลยทีเดียว  คนทีมารอรถไฟส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กๆ วัยรุ่น  แบกกระเป๋ากันคนละใบ คงจะเป็นเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ ไปเที่ยว   เพื่อนร่วมเดินทางเยอะขนาดนี้  ก็ต้องแอบส่งหน่อยล่ะ (อิอิ)




              รถไฟเคลื่อนออกจากสถานีมาได้สักพัก  เจอทุ่งนาที่เพิ่งว่านข้าว เขียวขจี  รู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาในทันทีเลยแฮะ  ที่นี่เขาทำนากันเร็วจัง ถ้าเป็นที่บ้านเรา คงเพิ่งไถกลบเพื่อฆ่าหญ้ากันอยู่  เพราะตอนนี้ก็เพิ่งจะเข้าหน้าแล้ง  กว่าฝนจะมาก็คงต้องรออีกสักพัก  
             นั่งรถไฟกันไปสักพัก ความหิวก็ไม่รอเวลาซะแล้ว เพื่อกำจัดความหิว  จัดไปด้วยสิ่งนี้ ...ก๋วยเตี๋ยวแห้ง... ห่อละ 10 บาท  อยากจะบอกว่ามันอร่อยมากกก อร่อยจริงๆ นะ  (ไม่รู้ว่าเพราะหิวหรือเปล่า) ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสนั่งรถไฟสายนี้ลองชิมกันดูนะคะ

สถานีปลายทาง - -> สถานีถ้ำกระแซ
             และแล้วเราก็มาถึงสถานีที่เราจะต้องลงกันแล้ว นั่นก็คือ สถานีถ้ำกระแซ  จากตรงนี้เรามองลงไปเห็นที่พัก โอ๊ยๆๆ ตื่นเต้น 55+ ยิ่งมองเห็นน้ำใสๆ นี่ยิ่งทำให้อดใจแทบไม่ไหวแล้ว  หน้าร้อนบ้านเรานี่มันร้อนปรอทแตกจริงๆ   อยากจะกระโดดลงน้ำ ณ ตอนนี้เลย



         ไม่รอช้า โทรติดต่อที่พัก ที่นี่มีบริการเรือรับส่ง ข้ามฝาก คอยรับส่งนักท่องเที่ยวฟรี   เรายืนรอสักพัก ก็มีเรือลำใหญ่มารับ ทางลงอาจจะค่อนข้างชันหน่อย แต่สำหรับขาลุยอย่างเราแล้วละก้อ สบายมาก


        เก็บภาพมุมสวยๆ ระหว่างนั่งเรือ  ที่พักของเราคืนนี้ คือ บ้านริมแคว แพริมน้ำ  อยู่ตรงข้ามทางรถไฟสายมรณะ ที่เป็นเรื่องเล่าขานสมัยสงครามโลครั้งที่ 2 สมัยที่มีกองทัพทหารญี่ปุ่นมาอยู่บ้านเมืองเรา เรื่องประวัติศาสตร์นี่ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไร ไม่เล่าเยอะแล้วกันนะคะ เดี๋ยวเล่าให้เพื่อนๆ ไปผิด อิอิ



           เจอน้ำแล้วไม่เล่น ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว  อากาศร้อนซะขนาดนี้  เอ้าโดด!!!!! เล่นนน้ำแล้ว งดถ่ายภาพนะคะ  ถ้าอยากรู้ว่าความสนุกในการเล่นน้ำที่นี่เป็นยังไง เพื่อนๆ ต้องลองมากันเองแล้วละ   กลัวเอาภาพตอนเล่นนน้ำมาอวด แล้วจะอิจฉากัน (ฮ่าๆๆๆๆ) 
         ห้องพักที่เป็นแพเต็มทุกห้องเลย  มีเพื่อนเล่นน้ำมากมาย บอกได้คำเดียวว่า ฟินสุดๆ 


          เล่นน้ำกันจนเหนื่อย และหนาวจนปากสั่นแล้ว  ก็ได้เวลาอาบน้ำ กินมื้อเย็น และร่วมกิจกรรมตอนเย็นของที่พัก
          กิจกรรมตอนเย็นของที่นี่ก็จะมี  การฉายเล่าเรื่องราวสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  ทางรถไฟที่อยู่ตรงหน้าถูกเนรมิตให้กลายเป็นฉากในการเล่าเรื่อง  ทั้งยังมีเอฟเฟคเสียงระเบิด  และก็ปิดท้ายด้วยพลุสวยๆ 
         หลังจากที่นั่งฟังประวัติศาสตร์อยู่นาน  เหมือนว่าจะเข้าใจ แต่มันกลับไม่เข้าหัวเลย ก็ยังคงเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ให้เพื่อนๆ อ่านไม่ได้อยู่ดี อิอิ



         และอีกกิจกรรมหนึ่งก็คือ กิจกรรมรอบกองไฟ เป็นกิจกรรมสันทนาการก่อนนอน บอกได้เลยว่าสนุกมากๆ 
         เพื่อนๆ  นักท่องท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะนั่งฝั่งที่เรานั่ง ฝั่นโน้นเลยดูโล่งๆ ไปหน่อย ก่อนที่จะจุดไฟ เจ้าหน้าที่รีสอร์ท  เล่นมุกตลกให้ฟังเยอะมาก ขำแทบตลอดเวลา  และก็ปิดท้ายด้วยรำวงรอบกองไฟ  ระดับสายมั่วอย่างเราแล้วละก็  มั่วตามนั้นนะสิ  รำวงกับเขาเป็นซะที่ไหน
         สำหรับวันแรก ก็จบเท่านี้แล้วกันนะคะ ขอไปซ้อมรำวงในฝันก่อน  Good night Day1


        เช้าแล้ววว..หิววว  กินมื้อเช้ากันค่ะ  กินมื้อเช้าเสร็จ เจ้าหน้าที่รีสอร์ทก็พาข้ามไปถ้ำกระแซ และเดินเล่นถ่ายรูปที่ทางรถไฟ ตอนเช้าๆ ภูเขายังบังแสงแดด ทำให้เดินเล่นบนทางรถไฟได้ไม่ค่อยร้อนเท่าไร  




       เดินเก็บภาพสักพัก ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับที่พัก  เรานั่งเล่นที่รีสอร์ทจนประมาณ 11 โมง ก็ต้องเก็บกระเป๋าเตรียมพร้อมเดินทางกลับสู่ กทม 

ขอบคุณ..รถไฟฟรี ที่ทำให้เราได้มาเที่ยวสนุกๆ และประหยัดค่าใช้จ่าย .. แล้วเจอกันใหม่นะคะ




บันทึกเรื่องราวการเดินทาง..Lewhite

0 ความคิดเห็น: