สังขละบุรี เส้นทางสุดโหด กับความรู้สึกสุดฟิน          สำหรับทริปนี้ วางแผนเที่ยวอยู่ประมาณ 3 เดือนค่ะ ในตอนนี้มีเที่ยวที่ให้ตัดสินใจเลือ...

สังขละบุรี เส้นทางสุดโหด กับความรู้สึกสุดฟิน

สังขละบุรี เส้นทางสุดโหด กับความรู้สึกสุดฟิน 

        สำหรับทริปนี้ วางแผนเที่ยวอยู่ประมาณ 3 เดือนค่ะ ในตอนนี้มีเที่ยวที่ให้ตัดสินใจเลือกอยู่ 2 ที่  ก็คือ เชียงคาน กับสังขละบุรี  ซึ่งเป็น 2 ที่ ที่อยากไปมาก ๆ จึงเริ่มต้นจากการหาข้อมูลใน Google รวมรวมข้อมูลได้พอสมควร จึงตัดสินใจเลือกการเดินทางที่คิดว่าง่ายที่สุด สำหรับการเดินทางไปเที่ยวคนเดียวของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ  คนหนึ่ง  (เอ๊ะ! นี่จะเที่ยวคนเดียวอีกแล้วหรอ ติดตามต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ว่าในที่สุดแล้ว หลิวไปเที่ยวคนเดียวอีกหรือไม่??)

การเดินทางครั้งนี้  วางแผนเดินทางในช่วงวันหยุดวันพ่อ 5-7 ธันวาคม เขาว่ากันว่า หน้าหนาวที่สังขละบุรีดูทะเลหมอกที่สะพานมอญ  บรรยากศก็ดีไม่แพ้ทางภาคเหนือ  งั้นการเที่ยวครั้งนี้คงได้สัมผัสอากาศเย็นๆ ตอนเช้าๆ  กับไอหมอกเย็นของจังหวัดชายแดนไทย-พม่า สักครั้งหนึ่งในชีวิต (วู้ๆๆ แค่คิดก็ฟินแล้ววว)

และแล้วก็มาถึงวันเดินทาง เช้าวันที่ 5 ธันวาคม ตื่นแต่เช้า เพื่อขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ ฉันเดินทางมาถึงอนุเสาวรีย์ ประมาณหกโมงเช้า (เพื่อเรื่องเที่ยวแล้ว ตื่นเช้าแค่ไหนก็ยอม 55+) และเพื่อนร่วมเดินทาง ที่ตัดสินใจมาด้วยและยอมตื่นแต่เช้าในวันหยุดก็มาถึงแล้วเช่นกัน


การเดินทางในครั้งนี้ เริ่มจาก...
               1. นั่งรถตู้จากอนุเสาวรีย์ไปเมืองกาญ   - ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
              2. ต่อรถตู้จากกาญไปสังขละบุรี  - ใช้เวลาประมาณ  4 ชั่วโมง
         ถึงสังขละประมาณบ่ายโมงครึ่ง เป็นเส้นทางที่เรียกว่าโหดสุดๆ เมารถ และหิวข้าวมาก พอลงจากรถปุ๊บ รีบตรงไปหาข้าวกินทันที   
        หลังจากกินข้าวจนอิ่มท้องแล้ว ก็นั่งวินมอเตอร์ไซต์ ไปยังที่พักค่ะ ซึ่งวินมอเตอร์ไซต์จะอยู่แถวๆ กับคิวรถตู้สังขละบุรีเลยค่ะ  พี่วินก็มาส่งเราที่ พีเกสเฮ้า รีสอร์ท  ที่จองไว้ล่วงหน้าแล้ว เป็นที่พักที่ถูกที่สุดที่หาได้  ซึ่งก็มาจาก รีวิวที่เข้าไปอ่านเพื่อเตรียมพร้อมกับการเที่ยวครั้งนี้  ที่นี่มีมอเตอร์ไซต์ให้เช่ารายวันด้วย ซึ่งแน่นอน มีมอเตอร์ไซต์ ก็ทำให้เราแว๊นไปที่ต่างๆ ได้

        เก็บข้าวเก็บของและพักเอาแรงสักพัก  การเดินทาง ก็เริ่มต้นขึ้น สถานที่แรกที่เราไป ไม่ใช้สะพานมอญ เพราะหาทางเข้าสะพานยังไม่เจอ 55+ อารมณ์คือ ไปที่อื่นก่อนก็ได้ ชิ!! (55+)  ที่แรกที่เราไปก็คือ...

1. ชุดชมวิว : เป็นจุดที่สามารถมองไปเห็นสะพานมอญ มุมกว้างๆ วันนี้เมฆสวยมาก แต่ว่ารูปที่ถ่ายมาไม่ค่อยสวยเท่าไร  (ฝีมือยังอ่อน) ที่นี่มีนักท่องเที่ยวบางคนมากางเต๊นท์กันด้วย   เราเดินถ่ายรูปกันสักพักก็ขับรถไปกันต่อ..


2. วัดวังก์วิเวการาม : ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรี ซึ่งเรียกอีกชื่นหนึ่งว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ"   เข้ามาถึงแล้วก็ไหว้พระขอพร นั่งทำจิตใจให้สงบกันสักหน่อย


3. เจดีย์พุทธคยา :  ช่วงนี้เขากำลังปรับปรุงอยู่ แต่ว่าก็ยังให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายรูปได้ เราเดินขึ้นไปชมความสวยงามกันแบบใกล้ๆ และก็เก็บภาพสวยๆ มาฝากค่ะ

4. สะพานมอญ : ในที่สุดเราก็ได้มาถึงสถานที่สำคัญของสังขละบุรี สะพานไม้ - สะพานมอญ เดินเล่นถ่ายรูปทั้งบนสะพาน และด้านล่างสะพาน ที่นี่มีร้านขายของให้เดินเลือกซื้อมากมาย และวันนี้ เรามาตรงกับวันพ่อ เขามีกิจกรรมเดินขบวนและใสเสื้อเหลืองเพื่อถวายพระพรกันตอนเย็นซะด้วย




         เราเดินเล่นที่สะพานจนกระทั่งมืด  เริ่มหิวกันแล้ว มื้อค่ำวันแรก ก็เลยจัดก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแถวๆ สะพานมอญ  กินใกล้จะเสร็จ จู่ๆ ฝนก็ร่วงหล่นมาเป็นสาย  ไปไหนต่อไม่ได้ ที่หลบฝนก็คือร้านก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง คุณลุงเจ้าของร้านก็ให้เราเข้าไปนั่งข้างในบ้านเพื่อหลบฝน  และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ  ไฟดับ (โอ๊ะ!  ฝนตก ไฟดับ นี่ถ้ามาคนเดียวคงแย่แน่ๆ) คุณลุงเล่าอะไรให้ฟังเยอะแยะมาก ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง เพราะลุงแกเป็นคนมอญ เราก็ฟังๆ อย่างเดียว พยักหน้า ค่ะๆ (ปกติก็ฟังอย่างเดียวกับทุกคนอยู่แล้ว) นอกจากเราแล้วก็มีเพื่อนกลุ่มอื่นๆ เข้ามาหลบฝนที่นี่เหมือนกัน คุณลุงนี่ใจดีฝุดๆ ไปเลย
         หลบฝนกันอยู่นาน และแล้วฝนก็หยุดตก  เราจึงขอบคุณคุณลุงแล้วก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปที่ถนนคนเดิน (ขอบคุณ คุณลุงผ่าน Blog อีกครั้งนะค่ะ)


5. ถนนคนเดินสังขละบุรี : เดินเล่นถนนคนเดินขอกินมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เก็บภาพบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆ แล้วกันนะค่ะ 

     วันที่ 5 ธันวาคม 2558  ที่่สังขละบุรีฝนตก และไฟดับ ดับติดติดดับ อยู่หลายครั้ง ในระหว่างที่เดินที่ถนนคนเดิน ก็มีสิ่งที่น่าประทับเกิดขึ้น นั่นก็คือ..พลุวันพ่อ ณ วินาทีนั้น บอกตรงๆ ว่ามีความสุขสุดๆ ทุกคนที่เดินอยู่ต่างก็หยุดนิ่ง แล้วสายตาก็มองไปที่ภาพเดียวกัน ภาพที่อยู่ตรงหน้า ฝุดกำลังพุ่งขึ้นฟ้าเป็นสาย มาตรงกับวันสำคัญนี่มันก็ดีอย่างนี้นี่เอง (ภาพที่ถ่ายอาจไม่ค่อยสวย แต่ภาพที่หลิวเห็น บอกได้แค่ความรู้สึก..ว่า "มีความสุขที่สุด")



ส่วนภาพด้านล่าง เป็นบรรยากาศวันที่ 2 ค่ะ ฝนไม่ตก ไฟไม่ดับ อิอิ  เดินหาอะไรกินเป็นมื้อค่ำ




6. ด่านเจดีย์สามองค์ : สุดเขตแดนสยาม ขับรถจากที่พักออกมาไกลพอสมควร แต่ไหนๆ ก็มาถึงสังขละแล้ว  ขับรถไปดูสักหน่อย  วันที่ 2 ต้องเที่ยวคนเดียว เพราะเพื่อนร่วมเดินทางได้หยุดงานแค่ 2 วัน  ขึ้นรถกลับไปประมาณ 11 โมง แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องขับรถเที่ยวเอง
 บอกเลยคิดผิดมากๆ เพราะวันที่ 2 นี่เหงาสุดๆ  (ถ้ามาคนเดียวตั้งแต่แรกคงไม่เหงาเท่านี้)  เอาละ ไม่เป็นไร  ยังสนุกกันต่อได้ค่ะ ไปดูภาพด่านเจดีย์สามองค์กันเลย..



และก็ขอปิดท้ายกันกับภาพบรรยากาศที่ถ่ายจากที่พักละกันเนาะ  พี เกสเฮ้า รีสอร์ท  ราคาคืนละ 300 บาท ถึงว่าโอเคมากๆ 

การเที่ยวครั้งนี้ แน่นอนว่าได้เห็นอะไรใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ  ครั้งหน้าหลิวจะเดินทางไปไหน  จะมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันแน่นอนค่ะ  แล้วเจอกันใหม่นะค่ะ

บันทึกเรื่องราวการเดินทาง..Lewhite

0 ความคิดเห็น: